แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปในเกมดาร์บี้แมตช์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และทีมร่วมเมืองก็ฉวยโอกาสเอาไว้ด้วยการตีเสมอได้สำเร็จ เป็นการสิ้นสุดสถิติชนะรวด 100% ในฤดูกาลนี้ของปีศาจแดง
ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำผลงานได้ไม่ดีนักเมื่อวันเสาร์ และปล่อยให้สกอร์นำค้างอยู่ที่ 1-0 นานเกินไป
รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำประตูให้ทีมขึ้นนำได้ในช่วงทดเวลาเจ็บของครึ่งแรก
แต่ปีศาจแดง ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีก และเกือบจะแพ้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยป้องกันเอาไว้ได้อย่างสุดยอดในช่วงท้ายเกม
เวย์น รูนี่ย์ ตั้งใจเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาจริงเอาจัง กระตือรือร้น และตั้งใจสร้างสรรค์เกมโดยตลอด แต่ความพยายามของเขาไม่เป็นผล และเป็นผลงานที่น่าผิดหวังทำให้ทีมได้เพียงคะแนนเดียวในเกมลีกนัดที่ 4 ของพวกเขา
เกมเริ่มต้นด้วยอารมณ์รุนแรง แฟนบอลเจ้าถิ่นไม่พอใจที่แฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 หรือ 2 คนรบกวนช่วงเวลายืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยให้กับโนเอล แคนท์เวลล์ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเสียชีวิตในสัปดาห์ที่ผ่านมา มันกระตุ้นบรรยากาศในการแข่งขันเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ที่ไม่ค่อยจะคลาสสิกนัก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างโอกาสที่สำคัญที่สุดตั้งแต่ต้นเกม รูนี่ย์ น่าจะทำให้ทีมได้ลูกจุดโทษ ก่อนที่เขาจะผ่านบอลอย่างสวยงามให้ปาร์ค จีซุง ได้จังหวะหลุดไปทำประตู ลูกยิงของกองกลางชาวเกาหลีหลุดออกข้างเสาทางขวาของ เดวิด เจมส์ ไปเพียงนิดเดียว และดูเหมือนผู้เล่นของปีศาจแดงจะตั้งใจเล่นอย่างมีจุดมุ่งหมาย
รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้โอกาสแรกของเขาในเกมนี้เมื่อผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง
แต่เขาเข้าไม่ถึงบอลที่ ปาร์ค จ่ายมาให้จากลูกโยนของ จอห์น โอเชีย
แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า การจ่ายบอลเริ่มผิดพลาด และแผนการเล่น 4-3-3 ของปีศาจแดงก็ไม่ปะติดปะต่อกัน
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพักครึ่งเวลา แฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มร้องเรียกหาอำนาจวิเศษจาก รูนี่ย์ การเติมขึ้นมาอย่างรวดเร็วจาก พอล สโคลส์ หรือความพยายามยิงประตูจากฟาน นิสเตลรอย
และสิ่งที่แฟนบอลเรียกหาก็เกิดขึ้นก่อนจบครึ่งแรกไม่กี่วินาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสอีกครั้ง สโคลส์ ได้ยิงไกลจากลูกตั้งเตะ บอลไปเข้าทางกองหน้าชาวดัตช์ที่ยิงเปลี่ยนทางบอล เจมส์ยื่นมือไปปัดบอลไว้ได้ แต่บอลก็กลับมาเข้าทาง รุด ยิงซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจบครึ่งแรก
กลับมาครึ่งหลัง เกมก็ยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าพละกำลังที่ไม่มีหมด และการเข้าหาบอลที่ไม่หยุดหย่อนของ รูนี่ย์ จะมีมากขึ้นหลังจากพักครึ่ง หนึ่งในพรสวรรค์มากมายของเขาทำให้แฟนบอลส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม และกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมของเขา การเลี้ยงบอลอย่างสุดยอดผ่านแดนนี่ มิลล์ส ผู้ซึ่งจำเป็นต้องสกัดเขาให้ล้มลงในท้ายที่สุด เป็นตัวอย่างหนึ่งของการเล่นของเจ้าหนูวัย 19 ปี ที่สามารถเปลี่ยนการครองบอลตรงกลางสนามที่ไม่มีอะไรให้กลายเป็นโอกาสในการทำประตู
มีบางครั้งที่เขาแสดงความหงุดหงิดออกมา เหมือนอย่างที่เขาแสดงออกมาในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ และมันก็ค่อนข้างจะถูกต้อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำได้ห่างจากการเล่นที่สุดยอดของพวกเขา
รูนี่ย์ ยังคงมองหาที่ว่างมากขึ้นในตำแหน่งต่ำลงมา โดยส่งสัญญาณมือเรียกหาบอลตลอดเวลา ถ้าจะมีประตูต่อไปของทีม มันคงจะต้องมาจากการสร้างโอกาสของเขาแน่นอน
หลังจาก 1 ชั่วโมงผ่านไป เขาสัมผัสบอลอย่างคล่องแคล่วเพื่อจ่ายบอลอย่างพอเหมาะพอดีไปให้ ปาร์ค แต่โชคไม่ดีที่ลูกยิงของนักเตะเกาหลีไม่สามารถเข้าไปตุงตาข่าย หรือไปเข้าทางรุด ฟาน นิสเตลรอย ที่อยู่กลางประตูได้
เมื่อเหลือเวลาอีก 20 นาที รูนี่ย์ ก็อยู่ไปทุกที่ทั่วสนาม ทั้งทางฝั่งซ้ายเพื่อเจาะแผงหลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่แดนกลางเพื่อมองหาที่ว่างและเพื่อให้ได้บอลมากขึ้น เป็นคนเตะลูกเตะมุมและทุ่มบอล อยู่ทางแบ็คซ้ายเพื่อเล่นเกมรับ และหลอกล่อแฟนบอลทีมเยือนที่โห่ใส่เขาตลอดทั้งเกม
อย่างไรก็ตามแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังคงนำอยู่เพียง 1-0 อย่างไม่ปลอดภัย และมีโอกาสถูกตีเสมอได้ และมันก็มาถึงเมื่อเหลือเวลา 15 นาที โจอี้ บาร์ตัน ได้สัมผัสบอลเปลี่ยนทางในระยะไม่กี่หลาจากลูกยิงเรียดของ วาสเซลล์ ส่งบอลรอดขาริโอ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งยืนป้องกันอยู่ที่เส้นประตู ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จนได้
รูนี่ย์ เกือบจะเป็นผู้สร้างโอกาสให้ปีศาจแดง กลายเป็นผู้ชนะในช่วงท้ายเกม
เขาโยนบอลเข้ามาอย่างพอเหมาะ แต่ไรอัน กิ๊กส์ โหม่งบอลออกไปอย่างน่าเสียดาย
แอนดี้ โคล ซึ่งกลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในฐานะนักเตะเรือใบสีฟ้า เกือบจะทำให้สโมสรใหม่ของเขาได้ชัยชนะ จากลูกยิงวอลเลย์ของเขาในช่วงทดเวลาเจ็บถูกป้องกันเอาไว้ได้อย่างสุดยอดโดยฟาน เดอร์ ซาร์
และท้ายที่สุดเกมดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ก็จบลงที่ผลเสมอกัน 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงคะแนนเดียว ทั้งๆ ที่พวกเขาน่าจะจัดการกับเกมและคว้า 3 คะแนนเต็มไว้ได้ (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8
อลัน สมิธ 14
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 ( น. 33)( น. 45)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ 26
ไรอัน กิ๊กส์ 11 น. 81 ปาร์ค จีซุง 13
รอย คีน 16 น. 78 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 น. 87 อลัน สมิธ 14
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เดวิด เจมส์ 1
ซิลแวง ดิสแตง 5
ริชาร์ด ดันน์ 22
แดนนี่ มิลล์ส 18 ( น. 58)
เบน แดทเชอร์ 3 ( น. 32)
โจอี้ บาร์ตัน 8 ( น. 76)
คิคิ มูแซมป้า 14
เคลาดิโอ เรย์น่า 6 ( น. 45)
เทรเวอร์ ซินแคลร์ 28
แอนดี้ โคล 9 ( น. 6)
ดาริอุส วาสเซลล์ 11
สำรอง
นิคกี้ วีฟเวอร์ 12
ซุน จีไฮ 17 น. 72 แดนนี่ มิลล์ส
เนดัม โอนัวฮา 16
อันโตเน่ ซิเบียร์สกี้ 10 น. 72 คิคิ มูแซมป้า 14
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 7 น. 84 ดาริอุส วาสเซลล์ 11
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 2, ลูกยิงหลุดกรอบ 5, เตะมุม 3, ฟาวล์ 12, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 1, การครองบอล 53%
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 3, ลูกยิงหลุดกรอบ 1, ลูกยิงโดนบล็อค 1, เตะมุม 5, ฟาวล์ 20, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 4, การครองบอล 47%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, จอห์น โอเชีย 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, มิเกล ซิลแวสตร์ 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 5, พอล สโคลส์ 6, อลัน สมิธ 7, เวย์น รูนี่ย์ 6, รุด ฟาน นิสเตลรอย 6, ปาร์ค จีซุง 6, ไรอัน กิ๊กส์ (สำรอง) 6, รอย คีน (สำรอง) 6, คีแรน ริชาร์ดสัน (สำรอง) 5
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดวิด เจมส์ 7, แดนนี่ มิลล์ส 5, ริชาร์ด ดันน์8, ซิลแวง ดิสแตง 7, เบน แดทเชอร์ 6, เทรเวอร์ ซินแคลร์ 7, โจอี้ บาร์ตัน 7, เคลาดิโอ เรย์น่า 7, คิคิ มูแซมป้า 5, ดาริอุส วาสเซลล์ 5, แอนดี้ โคล 7, ซุน จีไฮ (สำรอง) 5, อันโตเน่ ซิเบียร์สกี้ (สำรอง) 5, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (สำรอง) 5
Por