แมนฯ ยูไนเต็ด ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอในช่วงต้นซีซั่น ล่าสุดหนักข้อถึงขั้นโดน ไบรท์ตัน บุกมาถล่มถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3-1
เริ่มเกมมา แมนฯ ยูไนเต็ด ดูคึกคักกว่า และมีโอกาสออกนำจากทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์ แต่ก็ติดเซฟ เจสัน สตีล และยิงออกไปเอง
จากนั้น ไบรท์ตัน ก็ยกระดับการครองบอลของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ และนาทีที่ 20 ก็มานำ 1-0 เมื่อ ซิมง อาดิงก้า ทะลุมาทางฝั่งขวาแล้วเปิดเข้ากลาง อดัม ลัลลาน่า กระโดดข้ามหลอก ลูกไปถึง แดนนี่ เวลเบ็ค ตวัดยิงกลางเขตโทษตุงตาข่ายไม่เหลือ
ผีแดง มีโอกาสตีเสมอในนาทีที่ 34 มาร์คัส แรชฟอร์ด ลากจี้เข้าหาเขตโทษน่ากลัว แล้วสับไกยิงด้วยขวาไปติดบล็อค โยเอล เฟลท์มัน ชนเสาสามเหลี่ยมบนเด้งออกหลังไป
นาทีที่ 40 ยูไนเต็ด ส่งบอลซุกก้นตาข่ายจนได้ แรชฟอร์ด พยายามโยกไปเปิดที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วมาหน้าประตูให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้จิ้มด้วยเท้าซ้ายเข้าประตูไป แต่จากการเช็กวีเออาร์ปรากฎว่าบอลที่ แรชฟอร์ด เปิดมานั้นมันหลุดออกเส้นหลังไปเต็มใบแล้ว ดังนั้นประตูนี้จึงไม่ได้สำหรับ ผีแดง
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แรชฟอร์ด ได้ลากจี้แล้วตัดเข้าในมาซัดด้วยเท้าขวา บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกหลังไป
ครึ่งหลัง เจ้าบ้านพยายามบุกทวงประตูคืน นาทีที่ 51 แรชฟอร์ด ได้กระชากเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงมุมแคบด้วยเท้าซ้าย แต่บอลไปเข้าตาข่ายด้านข้าง
แต่นาทีที่ 53 กลายเป็น ไบรท์ตัน หนีห่าง 2-0 ทาริก แลมพ์ตี้ ได้บอลใกล้ๆ มุมเขตโทษด้านซ้าย เขาไหลสั้นๆ เข้ากลางไม่ได้ดีอะไร ทว่า ปาสกาล โกรสส์ มาถึงบอลแล้วดึงจังวะหลอก ลีซานโดร มาร์ตีเนซ ล้มหัวทิ่มก่อนยิงหักข้อยัดเสาแรกตุงตาข่าย
นาทีที่ 71 ไบรท์ตัน มาทิ้งเป็น 3-0 เมื่อ ทาริก แลมพ์ตี้ ใช้ความเร็วลากขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเรียดมากลางให้ ชูเอา เปโดร วางเท้าแปกระแทกเสียบเสาไกลเข้าไปเลย
แต่ ผีแดง ก็มามีหวัง เมื่อนาทีที่ 73 ไล่มา 1-3 ฮันนิบาล เมจ์บรี้ รับบอลก่อนลากมายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งวาบผ่านมือ เจสัน สตีล เสียบมุมตุงตาข่าย
แต่ทีมเยือนก็ยังมีทีเด็ดจากจังหวะเร่งสปีดเหมือนเดิม เปโดร แทงให้ คาโอรุ มิโตมะ ทะลุหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปยิงมุมแคบ แต่ก็ติด โอนาน่า ที่ปิดมุมไว้หมดแล้ว
นาทีที่ 90+3 ไบรท์ตัน น่าได้เพิ่มอีก บิลลี่ กิลมอร์ จ่ายทะลุช่องให้ อันซู ฟาตี ใช้ความเร็วแตะบอลหลุดเดี่ยวไปเลือกมุมยิง แต่คราวนี้ โอนาน่า ล้มตัวปัดไว้ได้เหลือเชื่อ
แมนฯ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนาน่า – ดีโอโก้ ดาโล่ต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ, เซร์คิโอ เรกีลอน – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, กาเซมีโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น – บรูโน่ แฟร์นันด์ส – ราสมุส ฮอยลุนด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด
ไบรท์ตัน : เจสัน สตีล – โยเอล เฟลท์มัน, ยาน-พอล ฟาน เฮคเค่, ลูอิส ดังค์, ทาริก แลมพ์ตี้ – ปาสกาล โกรสส์, มาห์มูด ดาห์อูด – ซิมง อาดิงกร้า, อดัม ลัลลาน่า, คาโอรุ มิโตมะ – แดนนี่ เวลเบ็ค
{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote
{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote
0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})
ต้า มั่นใจลูกเก๋าวิลเชียร์ไปได้สวยโค้ชชุดใหญ่ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
เทนฮากนับถือ มู แต่ไม่ซูเอี๋ยให้กันฟลอร์หญ้า วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ครูบา คาร์ร่า เชื่อหงส์เด้งตัวเสริมแน่ม.ค. วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
บรอยน์ อยากให้ลูกโตซานดีเอโกสละเรือสิ้นซีซั่น วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
ยอร์เกนเซ่นฟื้นคอนคัสชั่นคืนสิงห์ยูโรปาคอนฯ วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
นาโปลีสะกิดไก่ตลาดม.ค.ขอยืมดรากูชิน วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567